รับปรึกษากฏหมายธุรกิจ โทร : 061-789-1954
ประจวบคีรีขันธ์ เป็นจังหวัดในภาคตะวันตกของประเทศไทย เป็นจังหวัดที่มีรูปร่างยาวในแนวเหนือ-ใต้ และแคบในแนวตะวันออก-ตะวันตก โดยส่วนที่แคบที่สุดมีระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร
มีเนื้อที่ประมาณ 6,367.620 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 3,979,762.5 ไร่ มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียง ดังนี้
- ทิศเหนือ ติดต่อกับจังหวัดเพชรบุรี
- ทิศใต้ ติดต่อกับจังหวัดชุมพร
- ทิศตะวันออก ติดต่อกับอ่าวไทย
- ทิศตะวันตก ติดต่อกับประเทศพม่า
เราเป็นสำนักงานกฎหมายที่ให้ บริการทางด้านกฎหมาย ที่ปรึกษาทางกฎหมาย ที่ปรึกษาทำสัญญา เร่งรัดหนี้สิน ว่าความทั่วราชอาณาจักร ประกอบด้วยทีมงานที่มีความรู้ ความสามารถ ความชำนาญ และความเชี่ยวชาญงานแต่ละด้านเป็นอย่างดี จึงสามารถดำเนินการได้มีประสิทธิภาพเทียบเท่ามาตรฐานในระดับสากล
มุ่งเน้นการให้คำปรึกษาและแก้ปัญหาพร้อมทั้งให้ข้อมูลกฎหมายในทุกมิติ เพื่อเป็นประโยชน์ให้กับลูกค้าของเราอย่างสูงสุดและคิดราคาอย่างยุติธรรม ตามหลักนิติธรรมและจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพทนายความ ท่านสามารถโทรติดต่อขอคำปรึกษาและสนทนาพูดคุยกับเราได้โดยตรงตลอด 24 ชั่วโมง เราให้การรับรองว่า ทุกคำปรึกษา ทุกการสนทนา จะเป็นประโยชน์แก่ท่านอย่างแน่นอน
มีปัญหาด้านกฎหมาย สัญญาต่างๆ เร่งรัดหนี้สิน การว่าคดีความต่างๆ โทร.
061-789-1954 คุณวิทูร
094-568-7891 คุณพิทูรย์
087-912-0069 คุณวัฒนา
บริษัท ต่อรอง จำกัด
"ต่อรองให้เป็นต่อ"
มีมาตราฐานในการทำงานในระดับนานาชาติและทำงานร่วมกับสำนักกฎหมายอื่นๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศได้อย่างครอบคุลมทุกปัญหา มุ่งเน้นถึงผลประโยชน์ของตัวความเป็นที่ตั้ง พร้อมเป็นที่ปรึกษากฎหมายให้กับทุกหน่วยงานไม่ว่าจะเป็น หน่วยงานของเอกชน หน่วยงานของรัฐ และบุคคลทั่วไป โดยทีมทนายความมืออาชีพ พื้นที่ให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ และคิดราคาอย่างยุติธรรม
งานด้านกฎหมาย • ที่ปรึกษาทำสัญญา • เร่งรัดหนี้สิน • ว่าความทั่วราชอาณาจักร
งานด้านกฎหมาย
- ให้คำปรึกษากฎหมาย ได้แก่ เป็นที่ปรึกษากฎหมายเกี่ยวกับธุรกิจ มรดก แรงงาน เวนคืนทุกประเภท และรับว่าความเป็นทนายเพื่อเจรจาต่อรอง และแก้ไขข้อพิพาท
- ดำเนินการยื่นฟ้อง คดีแพ่ง คดีอาญา คดีแรงงาน คดีล้มละลาย คดีทรัพย์สินทางปัญญา การร้องขอฟื้นฟูกิจการ รวมไปถึงการยื่นอุทธรณ์และฎีกาและการแก้อุทธรณ์หรือฎีกา
- การบังคับคดีตามคำพิพากษา เช่น การอายัดทรัพย์ การยึดทรัพย์ การขายทอดตลาด การขอกันส่วน การขอเฉลี่ยหนี้ การร้องขัดทรัพย์ และการขอรับชำระหนี้บุริมสิทธิหรือการยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย
งานที่ปรึกษาทำสัญญา
- ให้บริการร่างสัญญาประเภทต่างๆ เช่น สัญญาธุรกิจการค้า สัญญาการเงิน สัญญาร่วมลงทุน สัญญาปรับปรุงโครงสร้างกิจการ สัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้และสัญญาอื่นๆ ทุกประเภท
งานบริการเร่งรัดและติดตามหนี้สิน
- การจัดทำแผนในการเร่งรัดหนี้ เจรจาต่อรองเรียกเก็บหนี้ การประนอมหนี้และการทำแผนการเรียกเก็บหนี้ในกลุ่มลูกหนี้โดยไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการฟ้องร้องเป็๋นคดีความ
- การสืบหาตัวบุคคลตามหมายจับคดีอาญา สืบหาบุคคลสาบสูญ สืบหาตัวบุคคล
งานว่าความต่างๆ
- ให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่สถานประกอบการ รับว่าความคดีในชั้นศาลทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา
ประวัติศาสตร์
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาไม่ค่อยแน่ชัด เนื่องจากเป็นพื้นที่แคบ ยามมีศึกสงครามยากแก่การป้องกันจึงต้องปล่อยให้เป็นเมืองร้างหรือยุบเมืองเป็นส่วนหนึ่งของเมืองเพชรบุรี ในอดีตเป็นเพียงเมืองชั้นจัตวาเล็ก ๆ ที่รวมกันอยู่ภายใต้การปกครองของเมืองเพชรบุรี พอถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยจึงได้โปรดเกล้าฯ ตั้ง เมืองบางนางรม ที่ปากคลองบางนางรม แต่ที่ดินไม่เหมาะสมแก่การเพาะปลูกจึงย้ายที่ว่าการเมืองไปตั้งที่เมืองกุย ที่มีความอุดมสมบูรณ์และการตั้งบ้านเรือนหนาแน่นกว่า
ครั้นรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พ.ศ. 2398 โปรดเกล้าฯ ให้รวมเมืองกุย เมืองคลองวาฬ และเมืองบางนางรมเข้าด้วยกัน โดยที่ตั้งเมืองยังคงตั้งอยู่ที่เมืองกุย (คืออำเภอกุยบุรีในปัจจุบัน) และโปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อเมืองกุยเป็น เมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้ชื่อคล้องจองกันกับเมืองประจันตคีรีเขตซึ่งเดิมคือเกาะกงที่แยกออกจากจังหวัดตราด
ครั้นถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พ.ศ. 2441 จึงย้ายเมืองมาอยู่ที่บ้านเกาะหลัก ต่อมาพระองค์ทรงจัดการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาล เมืองประจวบคีรีขันธ์ เมืองชั้นจัตวาซึ่งขึ้นตรงกับเมืองเพชรบุรี มีฐานะเป็นอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ สังกัดเมืองเพชรบุรี ในช่วงนี้เมืองปราณบุรีซึ่งมีอาณาเขตติดอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ด้านทิศเหนือและเคยมีฐานะเป็นเมืองชั้นจัตวาขึ้นกับเมืองเพชรบุรี ก็ได้จัดตั้งเป็นอำเภอเมืองปราณบุรี สังกัดเมืองเพชรบุรีด้วย[3] ส่วนเมืองกำเนิดนพคุณขึ้นตรงกับเมืองชุมพร ด้วยมีพระราชดำริสงวนชื่อเมืองปราณไว้ (เมืองเก่าที่ตั้งอยู่ที่ปากน้ำปราณบุรี) ต่อมา วันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2449 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีพระบรมราชโองการให้รวมเอาอำเภอเมืองปราณบุรี อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เมืองเพชรบุรี และอำเภอกำเนิดนพคุณ เมืองชุมพร ซึ่งเป็นเมืองชั้นจัตวามาก่อน ตั้งเป็นเมืองปราณบุรี มีที่ทำการเมืองอยู่ที่ตำบลเกาะหลัก ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงได้มีการเปลี่ยนชื่อเมืองปราณบุรีเป็นเมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อป้องกันการสับสนกับเมืองปราณที่ปากน้ำปราณบุรี หลังจากมีการยกเลิกระบบการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาล เมืองประจวบคีรีขันธ์จึงไม่ได้ขึ้นตรงกับเมืองเพชรบุรีและมณฑลราชบุรีอีก
การปกครองแบ่งออกเป็น 8 อำเภอ 48 ตำบล 388 หมู่บ้าน
อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์
อำเภอกุยบุรี
อำเภอทับสะแก
อำเภอบางสะพาน
อำเภอบางสะพานน้อย
อำเภอปราณบุรี
อำเภอหัวหิน
อำเภอสามร้อยยอด